ในยุคที่การถ่ายภาพกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน กล้องถ่ายรูปจึงเป็นไอเทมที่หลายคนใฝ่ฝัน แต่ด้วยราคากล้องใหม่ที่อาจจะสูงเกินเอื้อม การเลือกซื้อกล้องมือสองจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตาม การซื้อกล้องมือสองก็มีความเสี่ยงที่อาจจะได้กล้องที่ไม่ตรงตามที่คาดหวัง หรือมีปัญหาซ่อนเร้นอยู่
บทความนี้จะมาช่วยคุณ “สแกน” กล้องมือสองให้เหมือนมือโปร! เราจะมาเจาะลึกเทคนิคการตรวจสอบกล้องมือสอง ตั้งแต่สภาพภายนอก ฟังก์ชันการทำงาน ไปจนถึงคุณภาพของภาพ เพื่อให้คุณมั่นใจว่าจะได้กล้องที่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดถ่าย หรือช่างภาพมืออาชีพ บทความนี้มีเทคนิคที่เป็นประโยชน์สำหรับทุกคน อย่าให้พลาดกับกล้อง(ไม่)เทพ เพราะการตรวจสอบที่ละเอียด จะช่วยให้คุณได้กล้องที่ใช่ ในราคาที่ชอบ!
ส่องให้ทะลุ ตรวจสอบภายนอกกล้องอย่างมือโปร
การตรวจสอบสภาพภายนอกของกล้องมือสองเป็นขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุด เพราะมันบ่งบอกถึงการใช้งานและการดูแลรักษากล้องของเจ้าของเดิม มาดูกันว่าเราต้องสังเกตอะไรบ้าง
1. บอดี้และโครงสร้าง
เทสกล้องทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นรอยขีดข่วน, รอยบุบ, รอยแตก ตรวจสอบทั่วทั้งตัวกล้อง โดยเฉพาะบริเวณมุมและขอบ ที่มักเกิดการกระแทกได้ง่าย และพวกสีลอกหรือซีดจางอาจบ่งบอกถึงการใช้งานหนักหรือเก็บรักษาไม่ดี เทสกล้องว่าเปิด-ปิดได้สะดวก และไม่มีร่องรอยการงัดแงะ
รวมไปถึงตรวจสอบรอยขีดข่วน ฝุ่น หรือคราบสกปรก รวมถึงความคมชัดและสีสันของหน้าจอ ตรวจสอบการทำงานของปุ่มต่างๆ เช่น ปุ่มชัตเตอร์, ปุ่มเปิด-ปิด, ปุ่มปรับโหมด, วงแหวนปรับโฟกัสและซูม ว่าใช้งานได้ราบรื่น ไม่ติดขัด อย่าลืมพวกร่องรอยการสึกหรอ หรือความเสียหายที่อาจส่งผลต่อการใช้งานเลนส์ สุดท้ายอย่าลืมตรวจสอบการทำงานของแฟลช (ถ้ามี) ว่าเด้งขึ้น-ลงได้ปกติ และยิงแสงได้
2. เลนส์

ตรวจสอบพื้นผิวเลนส์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รวมถึงขอบเลนส์ ส่องไฟฉายเข้าไปในเลนส์ เพื่อตรวจสอบฝ้าและรา ซึ่งอาจส่งผลต่อคุณภาพของภาพ และตรวจสอบการทำงานว่าราบรื่น ไม่ติดขัด หรือหลวมเกินไป รวมไปถึงตรวจสอบว่ากลีบทำงานได้ปกติ และไม่มีคราบน้ำมัน
3. อุปกรณ์เสริม

ตรวจสอบสภาพและการใช้งาน ของสายคล้องคอและฝาปิดเลนส์ แบตเตอรี่และที่ชาร์จทั้งสภาพภายนอก และทดสอบการชาร์จ (ถ้าเป็นไปได้) รวมไปถึงคู่มือและกล่อง ถึงแม้จะไม่จำเป็น แต่ก็เพิ่มมูลค่าให้กับกล้องมือสองได้เยอะเลยทีเดียว
เคล็ดลับที่เราอยากแนะนำคือการพกไฟฉายและผ้าไมโครไฟเบอร์ เพื่อช่วยในการตรวจสอบและทำความสะอาด หากเป็นไปได้ให้ถ่ายภาพทดสอบ ถ่ายภาพในสภาพแสงต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบคุณภาพของภาพและการทำงานของกล้องและอย่าลืมสังเกตความรู้สึก เพราะกล้องที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างดี มักจะให้ความรู้สึกที่ดีในการใช้งาน
สรุปแล้ว การตรวจสอบภายนอกอย่างละเอียด จะช่วยให้คุณประเมินสภาพของกล้องมือสองได้อย่างแม่นยำ และหลีกเลี่ยงการซื้อกล้องที่มีปัญหาซ่อนเร้น อย่าลืมว่า “ตาดีได้ ตาร้ายเสีย” การตรวจสอบที่รอบคอบ จะช่วยให้คุณได้กล้องที่คุ้มค่าและสร้างความสุขในการถ่ายภาพได้อย่างยาวนาน
ทดสอบให้รู้ลึก ฟังก์ชันต้องเป๊ะ!
หลังจากสำรวจรูปลักษณ์ภายนอกกันไปแล้ว ถึงเวลาทดสอบฟังก์ชันต่าง ๆ ของกล้องมือสอง เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างทำงานได้อย่างราบรื่น และไม่มีปัญหาซ่อนเร้น มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่เราต้องทดสอบ
1. ระบบพื้นฐาน
อันดับแรกให้เทสกล้องเปิด-ปิดได้อย่างรวดเร็ว และไม่มีเสียงผิดปกติ หลังจากนั้นให้ทดลองปรับเปลี่ยนการตั้งค่าต่าง ๆ เช่น ISO, รูรับแสง, ความเร็วชัตเตอร์, White Balance เพื่อดูว่าระบบตอบสนองได้ดี ทดลองถ่ายภาพในโหมดต่าง ๆ เช่น Auto, Manual, Aperture Priority, Shutter Priority เพื่อดูว่ากล้องทำงานได้ครบทุกโหมด
ถ้าเป็นไปได้ให้เทสกล้องโฟกัสอัตโนมัติและโฟกัสด้วยมือ ว่าทำงานได้แม่นยำและรวดเร็ว หากกล้องมีระบบป้องกันภาพสั่นไหว ให้ทดสอบโดยการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย หรือใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ
2. การถ่ายภาพและวิดีโอ
ลองเทสกล้องเรื่องการถ่ายภาพต่อเนื่อง เพื่อดูว่ากล้องสามารถถ่ายภาพได้ต่อเนื่องตามสเปคหรือไม่ และทดสอบการบันทึกวิดีโอในความละเอียดต่างๆ เพื่อดูว่ากล้องสามารถบันทึกวิดีโอได้ตามสเปค และไม่มีปัญหาเรื่องเสียงหรือภาพอย่าลืมทดสอบการทำงานของแฟลชในตัว (ถ้ามี) และช่องต่อแฟลชภายนอก รวมไปถึงทดสอบการเชื่อมต่อ Wi-Fi หรือ Bluetooth กับสมาร์ตโฟนหรือคอมพิวเตอร์
3. ฟังก์ชันพิเศษ
หากกล้องมีระบบ GPS ให้ทดสอบว่าสามารถบันทึกตำแหน่งได้ถูกต้อง และหากกล้องมีหน้าจอสัมผัส ให้ทดสอบการใช้งานว่าตอบสนองได้ดี รวมไปถึงทดสอบฟังก์ชันพิเศษอื่น ๆ ที่กล้องมี เช่น Time-lapse, HDR, Panorama
คำแนะนำเพิ่มเติมจากเราก็คือให้ถ่ายภาพในสภาพแสงต่าง ๆ และสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อทดสอบฟังก์ชันต่าง ๆ ของกล้องให้ครบถ้วน เทสกล้องพวกไฟล์ภาพและวิดีโอที่ถ่าย เพื่อดูว่ามีปัญหาเรื่อง Noise, ความคมชัด, หรือสีสันหรือไม่และฟังเสียงการทำงานของกล้อง เช่น เสียงชัตเตอร์, เสียงมอเตอร์โฟกัส, เสียงซูม ว่ามีเสียงผิดปกติหรือไม่
เจาะลึกทุกซอกมุม ตรวจสอบภายในกล้องให้มั่นใจ
แม้ว่าการตรวจสอบภายนอกและฟังก์ชันการทำงานจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่การเจาะลึกเข้าไปดูภายในกล้องก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจมีปัญหาซ่อนเร้นที่เราไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก
1. เซนเซอร์
ทำได้โดยการเปิดช่องใส่แบตเตอรี่/เม็มโมรี่การ์ด และส่องไฟฉายเข้าไปตรวจสอบเซนเซอร์ว่ามีฝุ่นหรือคราบสกปรกหรือไม่ หากมีมากเกินไป อาจส่งผลต่อคุณภาพของภาพ จากนั้นให้ตรวจสอบว่าเซนเซอร์มีรอยขีดข่วนหรือไม่ ซึ่งอาจเกิดจากการทำความสะอาดที่ไม่ถูกวิธี หรือการเปลี่ยนเลนส์ที่ไม่ระมัดระวัง และถ่ายภาพทดสอบด้วยการปิดฝาปิดเลนส์ แล้วตรวจสอบภาพว่ามีจุดสีขาวหรือดำผิดปกติหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของ Dead Pixel หรือ Hot Pixel
2. กระจกสะท้อนภาพและช่องมองภาพ
ส่องไฟฉายเข้าไปในช่องมองภาพและสังเกตกระจกสะท้อนภาพว่ามีฝุ่นหรือคราบสกปรกหรือไม่ และตรวจสอบว่ากระจกสะท้อนภาพมีรอยขีดข่วนหรือไม่ ซึ่งอาจส่งผลต่อความคมชัดของภาพในช่องมองภาพ อย่าลืมสังเกตว่ามีคราบขาวๆ หรือจุดดำ ๆ บนกระจกสะท้อนภาพหรือไม่ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของเชื้อรา
3. ช่องใส่แบตเตอรี่และเม็มโมรี่การ์ด
เทสกล้องว่าช่องใส่แบตเตอรี่และเม็มโมรี่การ์ดสะอาด ไม่มีคราบสนิมหรือคราบสกปรก และตรวจสอบว่าหน้าสัมผัสของแบตเตอรี่และเม็มโมรี่การ์ดอยู่ในสภาพดี ไม่งอหรือเป็นสนิม
นอกจากนั้นแล้ว ควรตรวจสอบช่องต่อสายต่าง ๆ เช่น ช่องต่อ USB, ช่องต่อ HDMI, ช่องต่อไมโครโฟน ว่าอยู่ในสภาพดี ไม่หลวมหรือเป็นสนิม และฟังเสียงการทำงานของกล้องขณะเปิด-ปิด, ถ่ายภาพ, และปรับโฟกัส ว่ามีเสียงผิดปกติหรือไม่
เราแนะนำว่าหากไม่แน่ใจเกี่ยวกับสภาพภายในของกล้อง สามารถสอบถามผู้ขายเกี่ยวกับประวัติการใช้งานและการดูแลรักษา และหากพบว่ากล้องมีฝุ่นหรือคราบสกปรกมาก อาจต้องพิจารณาค่าบริการทำความสะอาดเพิ่มเติม
สุดท้ายแล้ว กล้องมือสอง…ไม่ใช่(มือ)บอด อย่าปล่อยให้ความคุ้มค่าหลุดมือ เพราะกลัวว่าจะได้ของไม่ดี ที่ Focascamera เรามีเทคนิคมือโปร ช่วยคุณ “สแกน” และเทสกล้องมือสองให้ทะลุปรุโปร่ง ตรวจสอบทุกซอกทุกมุม ให้คุณมั่นใจว่าจะได้กล้องที่ใช่ ในราคาที่โดนใจ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ หรือช่างภาพมืออาชีพ เราก็มีคำแนะนำที่เข้าใจง่าย พร้อมให้บริการตรวจสอบกล้องมือสองอย่างละเอียด ติดต่อเราเลย