เทคนิคพื้นฐานการถ่ายภาพสำหรับมือใหม่

ปรับฟังก์ชั่นกล้อง
เลือกหัวข้อที่สนใจ

ในยุคที่ใคร ๆ ก็เป็นช่างภาพได้ เพียงแค่หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาก็กดชัตเตอร์เก็บภาพความประทับใจได้ทันที แต่เคยสงสัยไหมครับว่า ทำไมภาพถ่ายของบางคนถึงดูสวยงาม สะดุดตา จนอยากกดไลค์ กดแชร์ ในขณะที่ภาพถ่ายของเราเองกลับดูธรรมดา ไม่น่าสนใจ ? ความลับก็คือ “เทคนิคการถ่ายภาพ” นั่นเองครับ

ถึงแม้ว่ากล้องสมาร์ทโฟนในปัจจุบันจะมีฟังก์ชั่นอัจฉริยะมากมาย แต่การเรียนรู้เทคนิคพื้นฐานการถ่ายภาพก็ยังเป็นสิ่งสำคัญ ที่ช่วยให้เราสามารถควบคุมการทำงานของกล้อง ถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ และบันทึกภาพความทรงจำออกมาได้อย่างสวยงามน่าประทับใจยิ่งขึ้น  บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับเทคนิคพื้นฐานการถ่ายภาพสำหรับมือใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดองค์ประกอบภาพ การควบคุมแสง การโฟกัส และอื่น ๆ อีกมากมาย รับรองว่าอ่านจบแล้ว คุณจะสามารถถ่ายภาพได้สวยขึ้นอย่างแน่นอน

ปลดล็อกพลังแห่งภาพถ่าย เผยเทคนิคถ่ายภาพให้สวยสะกดทุกสายตา

การถ่ายภาพสวย ๆ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แต่การจะก้าวข้ามขีดจำกัดจากภาพถ่ายธรรมดา สู่ภาพถ่ายที่น่าตื่นตาตื่นใจ เต็มไปด้วยเรื่องราว และสะท้อนมุมมองอันเป็นเอกลักษณ์ จำเป็นต้องอาศัยเทคนิคการถ่ายภาพที่เหนือชั้นกว่า จะมีอะไรบ้างนั้น เรานำมาฝากแล้ว

1. รู้จักฟังก์ชั่นพื้นฐาน ISO, รูรับแสง (Aperture) และ ความเร็วชัตเตอร์

ISO, รูรับแสง (Aperture) และ ความเร็วชัตเตอร์ (Shutter Speed) เป็นฟังก์ชันพื้นฐานที่สำคัญมาก ๆ ในการถ่ายภาพ เปรียบเหมือนสามทหารเสือที่ช่วยกันควบคุมแสงและสร้างสรรค์ภาพถ่ายที่สวยงาม

ลองนึกภาพแก้วน้ำที่เราต้องการเติมน้ำให้เต็ม รูรับแสง (Aperture) ก็เหมือนกับขนาดของก๊อกน้ำ ถ้าก๊อกน้ำใหญ่ (รูรับแสงกว้าง) น้ำก็จะไหลเยอะ แสงก็จะเข้ากล้องได้มาก ในทางกลับกันถ้าก๊อกน้ำเล็ก (รูรับแสงแคบ) น้ำก็จะไหลน้อย แสงก็จะเข้ากล้องได้น้อย นอกจากนี้รูรับแสงยังมีผลต่อ ระยะชัดลึก ด้วย โดยรูรับแสงกว้างจะทำให้ฉากหลังเบลอ ส่วนรูรับแสงแคบจะทำให้ภาพชัดทั้งภาพ

ความเร็วชัตเตอร์ (Shutter Speed) ก็เปรียบเสมือนระยะเวลาที่เราเปิดก๊อกน้ำ ถ้าเปิดนาน น้ำก็จะไหลเข้าแก้วได้มาก ในทางกลับกันถ้าเปิดแป๊บเดียว น้ำก็จะไหลเข้าแก้วได้น้อย ความเร็วชัตเตอร์มีผลต่อการ หยุดการเคลื่อนไหว ถ้าต้องการถ่ายภาพวัตถุที่เคลื่อนไหวเร็วๆ เช่น นักกีฬา รถแข่ง ก็ต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงๆ

ส่วน ISO ก็เหมือนกับความแรงของน้ำประปา ถ้าแรงดันน้ำสูง น้ำก็จะไหลแรง เติมแก้วได้เร็ว ISO ก็คือค่าความไวแสง ยิ่งค่า ISO สูง เซ็นเซอร์ของกล้องก็ยิ่งไวต่อแสง ทำให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี แต่ข้อเสียคือ ถ้าใช้ ISO สูงเกินไป ภาพอาจจะมี noise หรือ จุดรบกวน การถ่ายภาพให้สวยงามนั้น ต้องอาศัยการปรับทั้งสามค่านี้ให้สมดุลกัน

เราขอยกตัวอย่าง เช่นการถ่ายภาพบุคคล ให้ใช้รูรับแสงกว้าง เพื่อให้ฉากหลังเบลอ โฟกัสที่ตัวแบบ ใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงปานกลาง เพื่อป้องกันภาพสั่นไหว และปรับ ISO ให้เหมาะสมกับสภาพแสง หากเป็นการถ่ายภาพวิว ให้ใช้รูรับแสงแคบ เพื่อให้ภาพชัดทั้งภาพ ใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ ๆ เพื่อให้ได้ภาพที่นิ่งสนิท และใช้ ISO ต่ำ ๆ เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัด ไม่มี noise หรือถ่ายภาพกีฬา ให้ใช้รูรับแสงกว้าง เพื่อให้ฉากหลังเบลอ เน้นตัวนักกีฬา ใช้ความเร็วชัตเตอร์สูง ๆ เพื่อหยุดการเคลื่อนไหว และปรับ ISO ให้เหมาะสมกับสภาพแสง

2. จัดองค์ประกอบภาพ

จัดองค์ประกอบรูปภาพ

การจัดองค์ประกอบภาพ เปรียบเสมือนการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ในห้อง เพื่อสร้างบรรยากาศและความรู้สึกที่ต้องการ ถ้าจัดวางอย่างเหมาะสม ภาพถ่ายก็จะดูสวยงาม น่าสนใจ และสื่อความหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคนิคการจัดองค์ประกอบภาพที่นิยมใช้กันมีหลากหลาย เช่น

  • กฎสามส่วน (Rule of Thirds)

ลองนึกภาพว่าเราแบ่งภาพออกเป็น 9 ส่วนเท่า ๆ กัน ด้วยเส้นแนวนอน 2 เส้น และเส้นแนวตั้ง 2 เส้น จุดตัดของเส้นทั้ง 4 จุดนี้ จะเป็นจุดที่ดึงดูดสายตาของผู้ชมมากที่สุด ดังนั้น เราควรวางจุดสนใจของภาพไว้ที่จุดตัดเหล่านี้ เพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับภาพ 

  • เส้นนำสายตา (Leading Lines)

เส้นนำสายตา คือ เส้นต่าง ๆ ที่ปรากฏในภาพ เช่น ถนน รั้ว แม่น้ำ หรือแม้แต่แขนของคน ซึ่งเส้นเหล่านี้จะทำหน้าที่นำสายตาของผู้ชมไปยังจุดสนใจของภาพ

  • กรอบภาพ (Framing)

การใช้กรอบภาพ คือ การใช้องค์ประกอบในฉาก เช่น ประตู หน้าต่าง หรือต้นไม้ มาสร้างกรอบล้อมรอบตัวแบบ เพื่อเน้นตัวแบบให้โดดเด่นยิ่งขึ้น

  • พื้นที่ว่าง (Negative Space)

พื้นที่ว่าง คือ พื้นที่รอบ ๆ ตัวแบบที่ไม่มีอะไร การเว้นพื้นที่ว่างไว้รอบๆ ตัวแบบ จะช่วยให้ตัวแบบดูโดดเด่น และทำให้ภาพดูไม่อึดอัด

  •  สมดุลภาพ (Balance)

การจัดวางองค์ประกอบต่างๆ ในภาพ ควรคำนึงถึงความสมดุล เพื่อให้ภาพดูกลมกลืน ไม่อึดอัด

  • จุดตัดเก้าช่อง (Golden Ratio)

คล้ายกับกฎสามส่วน แต่จุดตัดเก้าช่องจะอยู่ใกล้กับจุดศูนย์กลางภาพมากกว่า

  • รูปแบบและการทำซ้ำ (Patterns and Repetition)

การมองหารูปแบบที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ เช่น ลายของกระเบื้อง หรือ ต้นไม้ที่เรียงรายกัน จะช่วยสร้างความน่าสนใจให้กับภาพ

  • ความสมมาตร (Symmetry)

การจัดองค์ประกอบภาพแบบสมมาตร จะช่วยสร้างความรู้สึกสงบ และเป็นระเบียบเรียบร้อย

  • มุมมอง (Perspective)

การทดลองถ่ายภาพจากมุมมองที่แตกต่าง เช่น มุมสูง มุมต่ำ หรือมุมเสย จะช่วยสร้างความแปลกใหม่ให้กับภาพ

สุดท้ายแล้วการจัดองค์ประกอบภาพ เป็นเทคนิคที่ต้องอาศัยการฝึกฝน และการสังเกต ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ และทดลองถ่ายภาพจากมุมมองที่หลากหลาย เพื่อพัฒนาฝีมือการถ่ายภาพของคุณให้ดียิ่งขึ้นได้นะครับ 

3. ระยะโฟกัส

ระยะโฟกัส (Focal Length) เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความสวยงามของภาพถ่าย ถึงแม้จะไม่ใช่เทคนิคการจัดองค์ประกอบภาพโดยตรง แต่ก็มีอิทธิพลต่อองค์ประกอบภาพโดยรวม ระยะโฟกัสคือ ระยะทางจากจุดศูนย์กลางของเลนส์ไปยังเซ็นเซอร์รับภาพเมื่อเลนส์โฟกัสที่ระยะอนันต์ มีหน่วยเป็นมิลลิเมตร (mm) ค่านี้บอกเราว่าเลนส์ “มองเห็น” กว้างแค่ไหน และส่งผลต่อมุมมองภาพ ระยะชัดลึก และขนาดของวัตถุในภาพ

ผลของระยะโฟกัสต่อภาพถ่าย

  • มุมมองภาพ (Field of View): ระยะโฟกัสสั้น (เลนส์ Wide-angle) จะมีมุมมองภาพกว้าง สามารถเก็บภาพได้ในมุมกว้าง เหมาะสำหรับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ สถาปัตยกรรม หรือภาพหมู่ ส่วนระยะโฟกัสยาว (เลนส์ Telephoto) จะมีมุมมองภาพแคบ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพสัตว์ป่า กีฬา หรือภาพบุคคล

  • ระยะชัดลึก (Depth of Field): ระยะโฟกัสยาว จะทำให้ระยะชัดลึกตื้น คือ ฉากหลังจะเบลอ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพบุคคล เพื่อเน้นตัวแบบให้โดดเด่น ส่วนระยะโฟกัสสั้น จะทำให้ระยะชัดลึกมาก คือ ภาพจะชัดทั้งภาพ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์

  • ขนาดของวัตถุ (Magnification): ระยะโฟกัสยาว จะทำให้วัตถุในภาพดูใหญ่ขึ้น เหมาะสำหรับการถ่ายภาพสิ่งที่อยู่ไกลๆ เช่น นก หรือ ดวงจันทร์ ส่วนระยะโฟกัสสั้น จะทำให้วัตถุในภาพดูเล็กลง

ส่วนประเภทของเลนส์ตามระยะโฟกัส

  • เลนส์มุมกว้าง (Wide-angle Lens): ระยะโฟกัส น้อยกว่า 35 มม.
  • เลนส์มาตรฐาน (Standard Lens): ระยะโฟกัส ประมาณ 50 มม.
  • เลนส์เทเลโฟโต้ (Telephoto Lens): ระยะโฟกัส มากกว่า 70 มม.

และการเลือกใช้เลนส์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ จะช่วยให้เราได้ภาพถ่ายที่สวยงาม และตรงตามความต้องการ

  • ถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ เลือกใช้เลนส์มุมกว้าง
  • ถ่ายภาพบุคคล เลือกใช้เลนส์มาตรฐาน หรือ เลนส์เทเลโฟโต้
  • ถ่ายภาพสัตว์ป่า เลือกใช้เลนส์เทเลโฟโต้

สรุปแล้วระยะโฟกัส เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อมุมมองภาพ ระยะชัดลึก และขนาดของวัตถุในภาพ การเลือกใช้เลนส์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ จะช่วยให้เราได้ภาพถ่ายที่สวยงาม และตรงตามความต้องการ

4. การปรับแสง

การปรับแสงเป็นหัวใจสำคัญของการถ่ายภาพเลยล่ะค่ะ! เพราะแสงมีอิทธิพลอย่างมากต่ออารมณ์ บรรยากาศ และความสวยงามของภาพ ว่ากันว่า ช่างภาพก็คือผู้วาดภาพด้วยแสง

การปรับแสงในการถ่ายภาพ หมายถึงการควบคุมปริมาณแสงที่เข้าสู่เซ็นเซอร์ของกล้อง เพื่อให้ได้ภาพที่มีความสว่าง โทนสี และคอนทราสต์ที่เหมาะสม ซึ่งเราสามารถปรับแสงได้ด้วยองค์ประกอบ 3 อย่างหลัก ๆ คือ

  • รูรับแสง (Aperture)

รูรับแสงเปรียบเสมือน “ม่านตา” ของเลนส์ ทำหน้าที่ควบคุมปริมาณแสงที่ผ่านเข้าสู่เซ็นเซอร์ อธิบายง่าย ๆ ได้ว่ารูรับแสงกว้าง (ค่า f ต่ำ เช่น f/1.4, f/2.8) ก็คือ

  • แสงเข้ามาก ทำให้ภาพสว่าง
  • ระยะชัดลึกตื้น ฉากหลังเบลอ เหมาะสำหรับถ่ายภาพบุคคล
  • รูรับแสงแคบ (ค่า f สูง เช่น f/8, f/16):
  • แสงเข้าน้อย ทำให้ภาพมืดลง

ระยะชัดลึกมาก ภาพชัดทั้งภาพ เหมาะสำหรับถ่ายภาพวิวทิวทัศน์

  •    ความเร็วชัตเตอร์ (Shutter Speed)

ความเร็วชัตเตอร์ คือ ระยะเวลาที่ชัตเตอร์เปิดรับแสง ความเร็วชัตเตอร์สูง (เช่น 1/1000 วินาที) อธิบายได้ว่า

  • ชัตเตอร์เปิดรับแสงในช่วงเวลาสั้นๆ
  • หยุดการเคลื่อนไหว เหมาะสำหรับถ่ายภาพกีฬา ภาพวัตถุที่เคลื่อนที่เร็ว
  • ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ (เช่น 1/4 วินาที):
  • ชัตเตอร์เปิดรับแสงนานขึ้น

ได้ภาพที่มีความเคลื่อนไหว เช่น ภาพน้ำตก ภาพเส้นแสงรถ

  •  ISO

ISO คือ ค่าความไวแสงของเซ็นเซอร์

  • ISO ต่ำ (เช่น ISO 100):
    • เซ็นเซอร์มีความไวแสงต่ำ
    • เหมาะสำหรับถ่ายภาพในที่แสงมาก
    • ได้ภาพที่คมชัด มี noise น้อย
  • ISO สูง (เช่น ISO 3200):
    • เซ็นเซอร์มีความไวแสงสูง
    • เหมาะสำหรับถ่ายภาพในที่แสงน้อย
    • แต่ภาพอาจจะมี noise หรือ จุดรบกวน

สุดท้ายแล้วการถ่ายภาพให้สวยงามนั้น ต้องอาศัยการปรับทั้ง 3 ค่านี้ให้สมดุลกัน โดยพิจารณาจากสภาพแสง แสงมากหรือน้อย สิ่งที่ต้องการถ่าย ภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหว และอารมณ์ของภาพ ต้องการภาพสว่างสดใส หรือ ภาพมืดขรึม

สำหรับเทคนิคเพิ่มเติมการ ใครที่ต้องการถ่ายภาพย้อนแสง ถ่ายภาพโดยให้แหล่งกำเนิดแสงอยู่ด้านหลังตัวแบบ จะได้ภาพที่มีแสง rim light สวยงาม และรู้หรือไม่ว่าแสงแดดในช่วงเช้าและเย็น จะให้แสงที่นุ่มนวล เหมาะสำหรับการถ่ายภาพบุคคล รวมไปถึงการใช้แฟลช ช่วยเพิ่มแสงในที่แสงน้อย หรือ ใช้เติมแสงในที่ร่ม การปรับแสงเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ที่ต้องอาศัยการฝึกฝน และ การทดลอง อย่ากลัวที่จะลองผิดลองถูก เพื่อค้นหาสไตล์การถ่ายภาพที่เป็นของคุณเองนะครับ 

เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี จุดประกายความหลงใหลในการถ่ายภาพ และช่วยให้คุณก้าวเข้าสู่โลกแห่งการถ่ายภาพอย่างมั่นใจ จำไว้ว่า “ภาพถ่ายที่ดีที่สุด คือภาพที่คุณรัก” อย่ากลัวที่จะทดลอง ฝึกฝน และค้นหาสไตล์ที่เป็นตัวคุณ แล้วคุณจะพบว่า การถ่ายภาพไม่ใช่แค่การกดชัตเตอร์ แต่คือการบันทึกเรื่องราว ความรู้สึก และความทรงจำ ให้อยู่กับเราตลอดไป และถ้าคุณกำลังมองหาอุปกรณ์ถ่ายภาพคุณภาพดี ในราคาสบายกระเป๋า เพื่อเติมเต็มความฝันในการเป็นช่างภาพ อย่าลืมนึกถึง Focus Camera2hand ร้านขายกล้องมือสอง ที่คัดสรรกล้องและเลนส์คุณภาพเยี่ยม มาให้คุณเลือกสรรมากมาย พร้อมบริการหลังการขายที่น่าประทับใจ

Focus Camera2hand: เริ่มต้นเส้นทางช่างภาพของคุณที่นี่