แนะนำการตั้งค่ากล้องถ่ายรูปพื้นฐานสำหรับมือใหม่หัดถ่าย

แนะนำการตั้งค่ากล้องถ่ายรูปพื้นฐานสำหรับมือใหม่หัดถ่าย
เลือกหัวข้อที่สนใจ

เคยรู้สึกมั้ยว่า ทำไมภาพถ่ายจากกล้องของเรา ถึงไม่สวยเหมือนคนอื่นเขา ทั้งที่ไปเที่ยวที่เดียวกัน ใช้กล้องรุ่นเดียวกันความลับก็คือ “การตั้งค่ากล้อง” นี่แหละ บทความนี้เลยจะพาคุณมือใหม่หัดถ่าย ไปทำความรู้จักกับพื้นฐานการตั้งค่ากล้องถ่ายรูปแบบง่าย ๆ ไม่ต้องงง ไม่ต้องกลัวศัพท์เทคนิค รับรองว่าอ่านจบแล้ว จะถ่ายรูปสวยขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

การตั้งค่าโหมดกล้องถ่ายรูปพื้นฐานที่ทุกคนควรรู้

โลกใบนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวและช่วงเวลาที่น่าจดจำ การถ่ายภาพเป็นเสมือนบันทึกความทรงจำเหล่านั้นให้คงอยู่ตลอดไป แต่ทำไมบางครั้งภาพที่เราถ่ายถึงไม่สวยอย่างที่ตาเห็น หรือทำไมภาพของคนอื่นถึงดูมีมิติและน่าสนใจกว่า คำตอบง่ายๆ ก็คือ “การตั้งค่าโหมดกล้อง” ดังที่กล่าวไปนั่นเอง 

เพราะโหมดการถ่ายภาพเปรียบเสมือนประตูสู่โลกแห่งการสร้างสรรค์ภาพถ่าย แต่ละโหมดมีลักษณะเฉพาะตัวที่ช่วยให้เราควบคุมการทำงานของกล้องได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการปรับความสว่าง ความคมชัด หรือแม้แต่การสร้างเอฟเฟกต์ต่าง ๆ เราเลยเสนอคอนเท้นต์ชิ้นนี้เพื่อให้คุณรู้จักกับโหมดกล้องถ่ายรูปพื้นฐาน ที่จะช่วยให้คุณก้าวข้ามขีดจำกัดของการถ่ายภาพแบบเดิม ๆ และบันทึกช่วงเวลาอันมีค่าได้อย่างมืออาชีพ

1. Mode P (Programme)

โหมด P (Program) เป็นโหมดถ่ายภาพพื้นฐานที่ควรรู้จัก เพราะเป็นเหมือนสะพานเชื่อมระหว่างโหมด Auto สู่การควบคุมกล้องด้วยตัวเอง เหมาะมากสำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นเรียนรู้การตั้งค่ากล้องแบบง่าย ๆ อธิบายเพิ่มเติมว่าโหมด P หรือ Program Mode คือโหมดที่กล้องจะช่วยตั้งค่า รูรับแสง (Aperture) และ ความเร็วชัตเตอร์ (Shutter Speed) ให้โดยอัตโนมัติ เพื่อให้ได้ภาพที่สว่างพอดี แต่เราสามารถปรับค่าอื่น ๆ ได้เอง เช่น ISO ความไวแสง White Balance สมดุลแสงขาว โหมดโฟกัส  เช่น AF-S, AF-C และชดเชยแสง เพิ่ม/ลดความสว่าง

ข้อดีของโหมด P คือคุณไม่ต้องกังวลเรื่องรูรับแสงและความเร็วชัตเตอร์ ปรับค่าต่างๆ ได้ตามต้องการ เหมาะกับหลายสถานการณ์ ถ่ายภาพทั่วไปได้สบายๆ

ส่วนวิธีตั้งค่าโหมด P อันดับแรกให้หมุนวงล้อเลือกโหมด โดยมองหาวงล้อบนตัวกล้อง ส่วนใหญ่จะมีตัวอักษร “P” กำกับอยู่ จากนั้นให้ลองถ่ายภาพในโหมด P สังเกตผลลัพธ์ หากต้องการควบคุมภาพมากขึ้น ให้ลองปรับค่า ISO, White Balance, ชดเชยแสง

เราขอแนะนำว่าหากคุณถ่ายภาพวิว ให้ใช้ ISO ต่ำ ๆ เพื่อลด Noise ปรับ White Balance ให้เหมาะสมกับสภาพแสงหรือถ้าถ่ายภาพบุคคล ให้ปรับ ISO สูงขึ้นเล็กน้อยหากแสงน้อย ใช้ชดเชยแสงเพื่อปรับความสว่าง

2. Mode A หรือ AV (Aperture Priority)

โหมด A หรือ Av (Aperture Priority) เป็นโหมดถ่ายภาพพื้นฐานที่สำคัญมากและทุกคนควรรู้จัก โดยเฉพาะคนที่รักการถ่ายภาพบุคคล หรือชอบถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ คือโหมดที่ให้เรา ควบคุมรูรับแสง (Aperture) ได้เอง ส่วนกล้องจะคำนวณ ความเร็วชัตเตอร์ (Shutter Speed) ให้โดยอัตโนมัติ เพื่อให้ได้ภาพที่สว่างเหมาะสม

แล้วรูรับแสง (Aperture) คืออะไร? ลองนึกภาพรูม่านตาของเรา ที่สามารถขยายหรือหดตัวเพื่อควบคุมปริมาณแสง รูรับแสงในเลนส์ก็ทำงานคล้าย ๆ กัน ควบคุมด้วยค่า f-number เช่น f/1.4, f/2.8, f/4, f/8 เป็นต้น หากค่า f-number ต่ำ (เช่น f/1.4) = รูรับแสงกว้าง คือแสงเข้ามาก และระยะชัดลึกตื้น (ฉากหลังเบลอเยอะ) ถ้าค่า f-number สูง (เช่น f/8) = รูรับแสงแคบ แสดงว่าแสงเข้าน้อย ระยะชัดลึกมาก (ฉากหลังเบลอน้อย) นั่นเอง

โดยโหมดนี้จะควบคุมระยะชัดลึกได้ ทำให้สร้างสรรค์ภาพถ่ายได้หลากหลาย เช่น ถ่ายภาพบุคคลหน้าชัดหลังเบลอ (ใช้ค่า f ต่ำ) และถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ให้คมชัดทั้งภาพ (ใช้ค่า f สูง) ไม่ต้องคำนวณความเร็วชัตเตอร์เอง

สำหรับวิธีตั้งค่าโหมด A/Av ให้หมุนวงล้อเลือกโหมด โดยมองหาวงล้อบนตัวกล้อง ส่วนใหญ่จะมีตัวอักษร “A” หรือ “Av” กำกับอยู่ หมุนวงล้อควบคุม หรือกดปุ่มปรับค่า (ขึ้นอยู่กับรุ่นของกล้อง) จากนั้นก็ลองถ่ายภาพ สังเกตผลลัพธ์ได้เลย

3. Mode S หรือ TV (Shutter Priority)

โหมด S หรือ Tv (Shutter Priority) เป็นอีกหนึ่งโหมดถ่ายภาพพื้นฐานสำคัญที่ควรรู้จักเลยครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณชอบถ่ายภาพกีฬา ภาพแอคชั่น หรืออยากจะลองสร้างสรรค์ภาพถ่ายที่มีลูกเล่น เพราะโหมด S หรือ Tv (Shutter Priority) คือโหมดที่ให้เรา ควบคุมความเร็วชัตเตอร์ (Shutter Speed) ได้ตามใจชอบ ส่วนกล้องจะทำหน้าที่คำนวณ รูรับแสง (Aperture) ให้อัตโนมัติ เพื่อให้ได้ภาพที่สว่างเหมาะสม

คำถามสำหรับมือใหม่ แล้วความเร็วชัตเตอร์ (Shutter Speed) คืออะไร ให้ลองนึกภาพประตูหน้าต่างที่เปิดรับแสงเข้ามาในห้อง ความเร็วชัตเตอร์ก็เหมือนกับระยะเวลาที่เราเปิดประตูบานนั้น มีหน่วยเป็นวินาที หรือเศษส่วนของวินาที เช่น 1/1000 วินาที, 1/60 วินาที, 1 วินาที หากความเร็วชัตเตอร์สูง (เช่น 1/1000 วินาที) ก็เท่ากับว่าประตูเปิดในเวลาสั้น ๆแสงเข้าน้อย หยุดการเคลื่อนไหว เหมาะกับการถ่ายภาพกีฬา, นกบิน และหากความเร็วชัตเตอร์ต่ำ (เช่น 1 วินาที) แสดงว่าประตูเปิดนาน แสงเข้ามาก ทำให้ภาพเบลอ เหมาะกับการถ่ายภาพน้ำตก, แสงไฟรถ

โหมด S/Tv สามารถที่จะควบคุมการเคลื่อนไหวได้ ทำให้สร้างสรรค์ภาพถ่ายได้หลากหลาย เช่น หยุดการเคลื่อนไหวของวัตถุที่เคลื่อนที่เร็ว (ใช้ความเร็วชัตเตอร์สูง) หรือจะสร้างภาพเบลอแบบ Motion Blur (ใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ) คุณไม่ต้องคำนวณรูรับแสงเอง

มองหาวงล้อบนตัวกล้อง ส่วนใหญ่จะมีตัวอักษร “S” หรือ “Tv” กำกับอยู่ จากนั้นก็หมุนวงล้อควบคุม หรือ กดปุ่มปรับค่า (ขึ้นอยู่กับรุ่นของกล้อง) และถ่ายภาพได้เลย

4. Mode M (Manual)

ถึงแม้โหมด M (Manual) จะดูเหมือนเป็นโหมดสำหรับมืออาชีพ แต่จริง ๆ แล้วเป็นโหมดพื้นฐานที่ทุกคนควรรู้จักและลองใช้งานดู เพราะการเข้าใจโหมด M จะทำให้เราเข้าใจหลักการทำงานของกล้องได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น เพราะโหมด M (Manual Mode) คือโหมดที่ให้เรา ควบคุมการตั้งค่าทุกอย่างด้วยตัวเอง ทั้งรูรับแสง (Aperture), ความเร็วชัตเตอร์ (Shutter Speed) และ ISO (ความไวแสง) นั่นหมายความว่าเราต้องมีความรู้ความเข้าใจเรื่องการตั้งค่ากล้องพอสมควร

แล้วทำไมต้องใช้โหมด M เนื่องจากโหมดนี้คุณสามารถควบคุมทุกอย่างได้ดั่งใจ เหมาะสำหรับสถานการณ์ที่ต้องการควบคุมภาพถ่ายแบบละเอียด เช่น ถ่ายภาพในสตูดิโอ ถ่ายภาพวิวทิวทัศน์ ถ่ายภาพกลางคืน รวมไปถึงการฝึกใช้โหมด M จะช่วยให้เราเข้าใจความสัมพันธ์ของรูรับแสง, ความเร็วชัตเตอร์, และ ISO และพัฒนาการถ่ายภาพให้ดียิ่งขึ้น

สำหรับวิธีตั้งค่าโหมด M อันดับแรกให้มองหาวงล้อบนตัวกล้อง ส่วนใหญ่จะมีตัวอักษร “M” กำกับอยู่ จากนั้นก็หมุนวงล้อควบคุม หรือกดปุ่มปรับค่า (ขึ้นอยู่กับรุ่นของกล้อง) ปรับค่าความเร็วชัตเตอร์ โดยหมุนวงล้อควบคุม หรือกดปุ่มปรับค่า ทำการปรับค่า ISO เข้าเมนู หรือกดปุ่มปรับค่า ลองถ่ายภาพ สังเกตผลลัพธ์ ทั้งนี้ให้ปรับค่าต่างๆ จนกว่าจะได้ภาพที่ต้องการ อย่าลืมว่าการใช้โหมด M ต้องอาศัยการฝึกฝน และการสังเกต

เราขอแนะนำเทคนิคการใช้โหมด M ง่าย ๆ ให้เริ่มจาก ISO ต่ำ ๆ เช่น ISO 100 เพื่อลด Noise ปรับรูรับแสงตามต้องการ เช่น ต้องการฉากหลังเบลอ ใช้ค่า f ต่ำ ต้องการภาพคมชัดทั้งภาพ ใช้ค่า f สูง จากนั้นก็ปรับความเร็วชัตเตอร์: เช่น ต้องการหยุดการเคลื่อนไหว ใช้ความเร็วชัตเตอร์สูง ต้องการภาพเบลอ ใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ สุดท้ายให้สังเกต Light Meter ในช่องมองภาพ หรือหน้าจอ จะมี Light Meter บอกว่าภาพสว่างไป หรือมืดไป ให้ปรับค่าต่างๆ จนกว่า Light Meter จะอยู่ตรงกลาง

Mode Portrait ( ถ่ายภาพบุคคล )

โหมด Portrait หรือโหมดถ่ายภาพบุคคล เป็นโหมดที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้การถ่ายภาพคนออกมาดูดี ง่ายขึ้น และเป็นอีกหนึ่งโหมดพื้นฐานที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะโหมด Portrait ถูกออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพบุคคลโดยเฉพาะ กล้องจะทำการตั้งค่าต่าง ๆ ให้โดยอัตโนมัติ เพื่อให้ได้ภาพบุคคลที่สวยงาม เช่น ปรับรูรับแสงกว้าง เพื่อให้ฉากหลังเบลอ ปรับสีผิว ให้ดูเนียน เป็นธรรมชาติ และจะโฟกัสที่ใบหน้าโดยอัตโนมัติ

ข้อดีของโหมด Portrait คือคุณไม่ต้องมีความรู้เรื่องการตั้งค่ากล้องมากก็ถ่ายได้ ได้ภาพสวยแน่นอน เพราะกล้องจะช่วยปรับแต่งภาพให้ เหมาะกับมือใหม่ที่ต้องการถ่ายภาพบุคคลแบบง่าย ๆ

สำหรับวิธีตั้งค่าโหมด Portrait อันดับแรกให้มองหาวงล้อบนตัวกล้อง ส่วนใหญ่จะมีสัญลักษณ์รูปคน หรือคำว่า “Portrait” กำกับอยู่ จัดองค์ประกอบภาพ ให้บุคคลอยู่ในเฟรมภาพ จากนั้นก็กดชัตเตอร์ได้เลย กล้องจะโฟกัสที่ใบหน้า และถ่ายภาพให้เอง

เทคนิคการใช้โหมด Portrait ให้ดูเซียน เราแนะนำว่าให้เลือกฉากหลังก่อน เพราะฉากหลังที่เรียบ ๆ จะช่วยขับให้ตัวแบบเด่นขึ้น จากนั้นให้จัดแสง จำไว้เสมอว่าแสงธรรมชาติ หรือแสงที่นุ่มนวล จะช่วยให้ภาพดูสวยงาม ลองปรับระยะห่างระหว่างตัวแบบกับฉากหลัง เพื่อควบคุมระยะชัดลึก และลองใช้โหมด Beauty (ถ้ามี) เพื่อช่วยปรับผิวให้เนียนใส

สุดท้ายแล้ว เราอยากจะบอกว่าการเดินทางของการถ่ายภาพเพิ่งเริ่มต้นขึ้น อย่าหยุดที่จะเรียนรู้ และพัฒนาฝีมือ แล้วภาพถ่ายของคุณจะสวยงาม น่าประทับใจยิ่งขึ้น! สำหรับใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์ถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็นกล้อง เลนส์ หรืออุปกรณ์เสริมต่าง ๆ Focus Camera2hand มีให้เลือกครบครัน ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ในราคาสุดคุ้ม ติดต่อเราเลย